เรื่องของบ้าน ประกันบ้านสำคัญไฉน

ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากจะมีบ้านเป็นของตนถือว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของคนอีกหลายคนเนื่องจากว่ากว่าจะเก็บหอมรอมริบกระทั่งแปลงเป็นเงินใหญ่เพื่อจะก่อสร้างบ้านเป็นของตัวเอง หรือจะเป็นการนำเงินมาวางมัดจำบ้าน นอกเหนือจากนั้นยังจำต้องผ่อนกับแบงค์ต่ออีกหลายสิบปี รวมทั้งแน่ ๆ ว่าบ้านหลังนี้จะเปลี่ยนเป็นที่พักอาศัยในระยะยาวไปจนกระทั่งตอนปลายชีวิตของคุณนั่นเอง

ในเมื่อสินทรัพย์ชิ้นโตนี้จะอยู่กับคุณไปตลอดชาติ แล้ว  ฮอยอาน่า     คุณจะไม่หาความคุ้มครองอะไรให้กับใช้เงินครั้งใหญ่ในชีวิตนี้เลยหรอ ดังที่คนในสมัยก่อนเคยบอกไว้ว่า มิจฉาชีพชิงทรัพย์ 10 ครั้ง ยังไม่เท่าไฟลุกครั้งเดียว

 

โดยเหตุนี้เพื่อไม่มอบเงินที่เก็บหอมออมมาชั่วชีวิตเสียเปล่าไปกับเหตุการณ์กลับตาลปัตรและก็ยังเพิ่มความอุ่นใจให้กับเจ้าของบ้านอีกด้วย การเลือกทำความคุ้มครองให้กับบ้าน ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ยืนยันความปลอดภัยให้ท่านได้ไม่มากมายก็น้อย

 

– ทำสัญญาประกันภัยบ้านเพื่อตั้งรับความโชคร้ายที่บางทีอาจเกิดขึ้นแบบไม่ตั้งตัว 

– การที่ทำประกันคุ้มครองไฟไหม้ป้องกันอะไรบ้าง

 

ทำสัญญาประกันภัยบ้านเพื่อตั้งรับความโชคร้ายที่บางทีอาจเกิดขึ้นแบบไม่ตั้งตัว

เพื่อปกป้องแล้วก็ปกป้องความทรุดโทรมที่อาจจะมีการเกิดขึ้นอยู่กับบ้านเมื่อจะต้องเผชิญกับเหตุการณ์กลับตาลปัตร ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไฟลุกหรือแม้กระทั้งภัยจากธรรมชาติ แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ใครหลาย ๆ คนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น หรือในความจริงบางครั้งก็อาจจะเป็นเหตุการณ์ที่หลบหลีกได้ยากคาดการณ์มิได้

แต่ว่าจะดีมากยิ่งกว่าไหม ถ้าพวกเราทุกคนสามารถเตรียมพร้อมตั้งรับเพื่อปกป้องความทรุดโทรมล่วงหน้าได้ด้วยทำสัญญาประกันภัยบ้าน ซึ่งโดยปกติสัญญาประกันภัยบ้านสำคัญ ๆ จะแบ่งได้เป็น 5 ชนิด ยกตัวอย่างเช่น รับรองการขโมยเข้าบ้าน, รับรองบ้านรวมทั้งสินทรัพย์, ประกันภัยพิบัติ, ประกันคุ้มครองหลักทรัพย์ MRTA, ประกันอัคคีภัย

แม้กล่าวถึงเหตุไฟลุกอย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ รับรองการไฟไหม้ เป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะทำเพื่อปกป้องไว้ ด้วยเหตุว่าไฟไหม้ หรืออุบัติเหตุไฟลุก เป็นสิ่งที่ใกล้พวกเราสูงที่สุด ด้วยเหตุว่ากำเนิดได้จากหลายกรณี ดังเช่น ไฟฟ้าลัดวงจร เครื่องใช้ไฟฟ้าพัง ก๊าซปิโตรเลียมเหลวรั่วไหล

การหุงต้มหรือเตรียมอาหารแล้วขาดความระวัง แล้วก็มูลเหตุฯลฯ ซึ่งอาจจะมีการเกิดจากความสะเพร่าของเจ้าของบ้านเองหรือมีต้นเหตุที่เกิดจากคนอื่นๆ

ดังนั้นหากมีบ้านทั้งทีก็ควรจะคิดให้รอบด้าน อย่าคิดว่าเป็นการฟุ่มเฟือย เนื่องจากเป็นการลงทุนในระยะยาว ไม่เช่นนั้นในอนาคต อาจจะเสีนน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย